หยก (Jade)
หยก (Jade)
หยก เป็นหินที่มีตำนานและความเชื่อที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวจีนมาเป็นเวลานาน ในวัฒนธรรมของชาวจีนมีการนำหยกมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีกรรม และนิยมนำมาทำเป็นสิ่งของเครื่องประดับ ตลอดจนงานศิลปวัตถุ เครื่องราง รูปสัญลักษณ์ หรือรูปเคารพต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับความศรัทธาและความเชื่อในเรื่องพลังอำนาจแห่งหินศักดิ์สิทธิ์นี้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ การนำหยกมาใช้ไม่เพียงแต่ปรากฏในวัฒนธรรมของชาวจีนเท่านั้น แต่ยังส่งอิทธิพลไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รวมไปถึงประเทศที่ได้รับการติดต่อสัมพันธไมตรีกับประเทศจีน และพบว่ามีทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินที่มีการนำหยกมาใช้ในงานเครื่องประดับและเครื่องยศอีกด้วย
หยก เครื่องประดับที่มีมูลค่าและคุณค่า การสวมใส่เครื่องประดับประเภทนี้ นอกจากความสวยงามแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับเรียกทรัพย์ เสริมบารมี ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ชาวจีนโบราณเชื่อว่า หยก เป็นสัญลักษณ์ทรงพลังแห่งจักรวาลที่ส่งผลคุ้มครองให้ผู้สวมใส่ประสบแต่มิ่งมงคล สำหรับสายมู ที่มีความเชื่อในเรื่องโชคชะตา บทความนี้เราจะมาทำความรู้จัก “หยก” อัญมณีที่เป็นมากกว่าเครื่องประดับ
หยก คืออะไร
หยก คือ ชื่อเรียกหินชนิดหนึ่ง ซึ่งถือเป็นอัญมณีล้ำค่ามาก และยังมีตำนานความเชื่อที่บรรพบุรุษคนรุ่นก่อน ๆ เล่าขานมานาน ชาวจีนเชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาซึ่งสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชคแก่ผู้ครอบครองและผู้สวมใส่
หยก เกิดจาก หินแปรที่ทับถมกันเป็นเวลานาน ผสมกับแร่ธาตุบางอย่าง ลักษณะเป็นผลึกเดี่ยวขนาดเล็ก ๆ จำนวนมากมารวมตัวและผสานกันจนเป็นกลุ่มก้อน หยกหนึ่งก้อนก็คือผลึกกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกัน ทำให้เกิดเป็นหินที่มีสีสันสวยงาม และการรวมตัวกันจากผลึกขนาดเล็กทำให้หยกมีโครงสร้างที่แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก เป็นพลอยที่ทนต่อการใช้งาน
ความเชื่อหยก
“จากความสวยงาม สู่ความศรัทธา” หยก ถือเป็นอัญมณีชนิดหนึ่งที่นอกจากมีความสวยงามและมีมูลค่าแล้ว ยังเป็นอัญมณีที่มีคุณค่าแตกต่างกันไป ตามความเชื่อและศรัทธาของแต่ละบุคคล ชาวจีนโบราณเชื่อว่าหยกเป็นหินมงคล เมื่อได้ครอบครองหรือสวมใส่ จะนำสิ่งดี ๆ เข้ามา ส่งผลให้มีความเจริญรุ่งเรื่อง มีความร่ำรวย รวมถึงโชคลาภและโอกาสดี ๆ ก็จะมีเข้ามาในชีวิต ส่วนความเชื่อของหยก เช่น
- ชาวจีนมีความเชื่อจากโบราณ มาสู่ปัจจุบัน ว่าหยกเป็น อัญมณีที่เป็นตัวแทนของคุณธรรม 5 ประการ คือ ความใจบุญ ความพอเพียง ความองอาจ ความยุติธรรม และความมีสติปัญญาที่หลักแหลม การสวมใส่หรือครอบครองหยกจะช่วยเสริมบารมีทั้ง 5 ด้าน
- หยก เป็นอัญมณีที่มีความเย็นในตัว และสามารถเก็บความเย็นเอาไว้ได้ดี ชาวจีนเชื่อว่าผู้ที่ในตัวมีธาตุไฟค่อนข้างมากหรือผู้ที่มักจะร้อนในบ่อย ๆ ควรสวมใส่ การใส่หยกจะทำให้ความเย็นจากหยกไหลผ่านเข้าไปในร่างกาย ช่วยให้ระบบร่างกายเกิดความสมดุลตามธรรมชาติ
- หยก เป็นเครื่องประดับที่มีความสวยงาม คนที่มีความเชื่อและความศรัทธา การสวมใส่หยกจะทำให้มีสติมากขึ้นเพราะนอกจากเป็นเครื่องประดับที่มีราคาแพง ความเชื่อในพลังของหยกยังส่งผลต่อจิตใจของผู้สวมใส่อีกด้วย
- ปัจจุบันชาวจีนนิยมให้ลูกหลาน พกหยกติดตัวไว้เสมอ หากเป็นเด็กหญิงจะสวมกำไลหยก แต่ถ้าเป็นเด็กชายก็จะพกเครื่องใช้ที่ทำด้วยหยกหรือจี้พระหยก เพราะเชื่อกันว่า หยกเป็นเครื่องรางบอกเหตุ ว่าผู้สวมใส่กำลังมีโชคหรือมีเคราะห์อย่างไร โดยให้สังเกตุจากสีของหยก หากหยกมีสีสันสดใส หมายความว่า เจ้าของหยกกำลังจะมีโชค แต่ถ้าหากหยกมีสีหมองลงหรือมองเห็นรอยแตกร้าวชัดขึ้น ก็อาจหมายถึง เจ้าของหยกอาจกำลังจะมีเคราะห์
หยกสีเขียว ความหมายคือ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย สุขภาพดี แข็งแรง อายุยืน และความสงบสุข หยกเขียวจึงเหมาะกับผู้เป็นเจ้าของกิจการ นักลงทุน แต่พลังโดยรวมของหยกทุกสีจะเสริมสิริมงคลได้ในทุกเรื่อง ที่แนะนำไว้ข้างต้น
ตามตำนานของจีนเชื่อว่า หยกมีคุณสมบัติในการบำบัดผู้ป่วยที่เจ็บป่วยโดยไม่รู้สาเหตุ โรคไต โรคทางเดินหายใจ ทำให้การไหลเวียนของโลหิตที่ติดขัดกลับดีขึ้น เพราะหยกจะมีพลังในการขับของเสียออกจากร่างกายได้ดี ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และยังเหมาะกับการดูดซับปัญหา ช่วยให้จิตใจสงบขึ้น ไม่ใส่ใจในคำนินทาว่าร้ายของคนอื่นมากนัก
ความเชื่อด้านพุทธคุณของชาวพุทธ
หยกเป็นสัญลักษณ์แห่งสิริมงคล นำความโชคดีสู่ผู้ครอบครอง และช่วยขจัดภัยอันตรายต่าง ๆ นำมาซึ่งสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชคแก่ผู้ครอบครองและทำให้อายุยืนด้วย หยกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวย หยกสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความมีโชค หยกสีม่วงเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์พร้อม หยกสีอ่อน ๆ เนื้อแก้วเป็นสัญลักษณ์ของจิตใจที่สงบสุข ส่วนลักษณะที่แข็งและหนาแน่นของหยกเปรียบเหมือนความฉลาดและความกล้าหาญความลื่นเป็นมันของผิวหยก คือ ความยุติ – ธรรม และการให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลเป็นเครื่องหมายของความกตัญญู