ประวัติความเป็นมาของวัดนิมิตโพธิญาณ
แต่ก่อนนี้ ที่บริเวณวัดนิมิตโพธิญาณ เป็นป่ายางมีต้นยางมากมาย ต้นยางบางต้นมีขนาดใหญ่กว่า 11 คนโอบ มีอายุยืนนานกว่าหลายร้อยปี ขึ้นสูงตระหง่านโดดเด่นอยู่กลางวัด ชาวบ้านแถวนั้นเชื่อกันว่า เป็นต้นยางศักดิ์สิทธิ์มีเทวดาสิงสถิตอยู่ และชาวบ้านก็เชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ในบริเวณนี้ ตามตำนานของชาวบ้านในท้องถิ่น เล่าขานต่อๆกันมาว่า เวลาค่ำคืนพระอาทิตย์ตกดิน ชาวบ้านมักจะเห็นลำแสงประหลาดพุ่งออกมาจากต้นยาง ราวกับแสงแห่งปาฏิหาริย์ บ้างก็ว่าเคยเห็นงูใหญ่เลื้อยออกมาคล้ายกับพญานาค ทำให้ชาวบ้านแห่งนั้นเกิดความเกรงกลัว ไม่กล้าตัดโค่นทำลายต้นยาง
พื้นที่ของวัดเดิมเป็นป่าช้า และเป็นดินแดงทั้งหมด มีบ่อน้ำซึมเป็นบ่อน้ำที่เกิดเองตามธรรมชาติ บ่อน้ำที่พบบ่อแรกนั้น คือบ่อน้ำตรงพ่อปู่ศรีสุทโธ ที่พระอาจารย์ท่านได้เห็นนิมิตจากพ่อปู่ศรีสุทโธ ซึ่งเป็นบ่อน้ำเดิมของที่วัด และเมื่อพระอาจารย์นำไม้ไผ่ยาวสามไม้ โดยการต่อกันให้ยาวขึ้น เพื่อจะวัดความลึกของบ่อน้ำ เมื่อพระอาจารย์ท่านทำการวัดความลึกของบ่อน้ำ ปรากฏว่ามิดไม้ไผ่ทั้งสามไม้ ซึ่งนั่นเป็นการบ่งบอกได้ว่า บ่อน้ำนี้ได้มีความลึกมาก จนไม่สามารถวัดได้ ซึ่งบ่อน้ำนี้เป็นบ่อน้ำที่อยู่ในป่าช้า อายุยาวนานมากกว่า 100 ปีที่อยู่ในวัดนิมิตโพธิญาณแห่งนี้ ถือเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นประตูทางเข้าสู่เมืองบาดาลของพญานาคผู้ยิ่งใหญ่ เป็นเส้นทางที่พญานาคใช้สัญจรไปมา ระหว่างโลกมนุษย์ และโลกบาดาลของเหล่าพญานาค
การสร้างวัดนิมิตโพธิญาณ แรกเริ่มเดิมทีมาจากการที่ผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนอยากสร้างวัดที่ตรงนี้ กลุ่มผู้นำอยากสร้างวัดที่บริเวณนี้ เพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ช่วงที่หลวงปู่รวยท่านได้มาปักกรดที่ป่าแห่งนี้ ที่ป่าต้นยาง ทางชาวบ้านเลยมากราบนมัสการ และกราบนิมนต์ท่าน ให้จำพรรษาอยู่ที่นี่ และชาวบ้านจะสร้างเป็นวัดให้ท่าน ซึ่งเมื่อก่อนยังคงเป็นป่า ชาวบ้านก็ได้พัฒนาจนเป็นสำนักสงฆ์ หลวงปู่รวยท่านจำพรรษาอยู่ประมาณ 2 พรรษา ท่านได้นิมิตว่า ถ้าอยากสร้างวัด ให้เจริญ ให้ขยับพื้นที่ออกไป เพราะภูมิตรงนี้ เจ้าของ … ท่านอยากอยู่อย่างสงบ ท่านไม่ได้ไล่ให้ไปไหน ท่านขอให้ขยับออกไป แล้วท่านจะส่งเสริมให้วัดนี้เจริญรุ่งเรืองแน่นอน หลวงปู่รวยท่านก็ได้เจรจากับผู้นำ และชาวบ้าน ได้มีการขยับออกไป ยังจุดที่เราเห็นในปัจจุบันนี้