พระธาตุนางเพ็ญ
ประวัติ
ณ เมืองหนองเป็ดโพธิ์เวียง มีพระวรปิตตาเป็นผู้ครองนครและมีมเหสีนามว่า “นางจันทรา” ทั้งสองปกครองแผ่นดินโดยธรรมแต่ยังไม่มีพระโอรสพระธิดาสักพระองค์ไว้เชยชม จนในคืนวันเพ็ญพระจันทร์ทรงกลด พระนางจันทราได้ให้กำเนิดพระธิดา หน้าตาน่ารักงดงามดั่งดวงจันทร์ ได้ตั้งชื่อให้ว่า “เพ็ญ” วันเวลาผ่านไปจนองค์หญิงเพ็ญพระชนม์มายุได้ 17 พรรษา มีรูปร่างหน้าตางดงามเป็นที่หลงใหลปรารถนาของชายทั้งหลาย กิตติศัพท์ความงามขององค์หญิงเพ็ญเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกสารทิศ ข่าวไปถึงเมืองบางที่ปกครองอยู่ทางเหนือ มีท้าวคำสิงห์เป็นผู้ปกครองและนางเขียวค่อมเป็นมเหสี ทั้งสองมีพระโอรสหลายพระองค์แต่ที่โปรดที่สุดคือ เจ้าราชบุตร ผู้มีความสามารถและรูปกายงดงาม ท้าวคำสิงห์ได้แต่งตั้งให้เป็นท้าวขัตติยะราช ปกครองแทน เมื่อท้าวขัตติยะราชทราบเรื่องราวขององค์หญิงเพ็ญจึงออกเดินทางเพื่อไปสู่ขอ
กล่าวถึงเมืองอีกเมืองหนึ่งชื่อเมืองภูเงินอยู่ทางหนองบัวลำภู มีเจ้าชายองค์หนึ่งชื่อ ท้าวไชยยะเสนะหรือเชียงไชยยะเสนะ มีรูปกายงดงามเช่นกัน ได้ครองราชย์ต่อจากบิดาอายุได้ 23 พรรษา ก็ได้ออกเดินทางไปสู่ขอนางเพ็ญเช่นกัน
และอีกเมืองหนึ่งคือ เมืองอินทะปัตถานคร อยู่ทางตะวันออกของหนองหาน ท้าวสุริยนเป็นผู้ครองนคร มเหสีนามว่า นางสุชาดา มีโอรสนามว่า เจ้าเชียงงามรูปร่างงดงามไม่แพ้ใครเมื่ออายุได้ 21 พรรษา ก็ได้ออกเดินทางไปสู่ขอนางเพ็ญเช่นเดียวกัน ด้วยบุญกรรมทำให้เจ้าชายทั้งสามมาถึงเมืองหนองเป็ดโพธิ์เวียงพร้อมกัน ต่างลั่นวาจาออกมาพร้อมกันว่า “ถ้าตนทำการสู่ขอไม่สำเร็จ ก็จะทำศึกสงครามแย่งชิงเอาตัวเจ้าหญิงเพ็ญมาให้จงได้ จะไม่ยอมถอยทัพกลับไปมือเปล่าเป็นอันขาด” พระวรปิตตาและมเหสี เกิดความยุ่งยากใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะตัดสินใจยกพระธิดาให้แก่ผู้ใด ก็ย่อมก่อให้เกิดสงครามอย่างแน่นอน พระมเหสีได้พูดออกมาว่า “เจ้าชายเมืองใดมีอำนาจมากกว่า เราจะเลือกเจ้าเชายเมืองนั้นให้เป็นราชบุตรเขย” องค์หญิงเพ็ญเกิดความรู้สึกไม่สบายใจ และไม่พอใจในวิธีการตัดสินแบบนั้นของผู้เป็นพระมารดา เพราะอย่างไรเสียก็ต้องเกิดการนองเลือดและสูญเสียชีวิตมากมาย นางจึงยอมเสียสละชีวิตของตนเองแต่เพียงผู้เดียว โดยการขอให้พระบิดาสั่งทหารสร้างพระธาตุ ให้มีโพรงข้างในและมีประตูปิด-เปิดได้ เมื่อสร้างเสร็จองค์หญิงเพ็ญก็ลาเข้าไปอยู่ในโพรงพระธาตุ 7 วัน 7 คืน โดยเตรียมข้าวปลาอาหารเข้าไปด้วย หากเจ้าชายทั้งสามไม่ยอมยกทัพกลับก็จะไม่ยอมออกมา และด้วยความอยากเห็นหน้านางเพ็ญของเจ้าชายทั้งสาม เมื่อทราบเรื่องเจ้าชายทั้งสามพระองค์ก็พยายามทุกวิถีทางให้นางออกมาจากพระธาตุ แต่ก็ไม่สำเร็จ องค์หญิงเพ็ญจึงแอบออกมากราบทูลพระบิดา สั่งให้ทหารก่ออิฐปิดประตูทางเข้า-ออกพระธาตุอย่างถาวร นับแต่นั้นมานางก็ไม่ออกมาจากพระธาตุนั้นอีกเลย ก่อนที่องค์หญิงเพ็ญจะสิ้นชีวิตในพระธาตุ ได้สาบแช่งว่า “แต่นี้ต่อไป คนทั้งหลายทั้งปวงที่อยู่ภายนอกและภายในเมืองหนองเป็ดโพธิ์เวียงขออย่าได้มีความสนใจ จงเห็นเป็นเมืองเศร้าหมองเหมือนหัวใจของข้า” แล้วเจ้าชายทั้งสามก็ต้องเดินทางกลับยังนครของตน แต่ระหว่างทางเกิดเหตุอัศจรรย์เจ้าชายทั้งสามต้องสิ้นพระชนม์ลงระหว่างการเดินทาง
วันเวลาทำการ
วันจันทร์ 08:00 น. – 17:00 น.
วันอังคาร 08:00 น. – 17:00 น.
วันพฤหัสบดี 08:00 น. – 17:00 น.
วันพุธ 08:00 น. – 17:00 น.
วันศุกร์ 08:00 น. – 17:00 น.
วันเสาร์ 08:00 น. – 17:00 น.
วันอาทิตย์ 08:00 น. – 17:00 น.
หมายเหตุเวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น
ข้อมูลสถานที่
พระธาตุนางเพ็ญตั้งอยู่ที่วัดเกาะแก้ว หมู่15 บ้านศรีสว่างวงค์ ต.เพ็ญ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี มีลักษณะเป็นเจดีย์ มีตำนานเล่ากันว่า นางเพ็ญ เป็นลูกสาวเจ้าเมืองที่มีความงดงามมาก กระโดดบ่อฆ่าตัวตายเพื่อยุติปัญหาการสู้รบกันของเจ้าเมืองต่างๆ ที่สู้รบกันเพื่อแย่งชิงนาง ชาวบ้านจึงสร้างเจดีย์ครอบบ่อน้ำ เพื่อระลึกถึงความดีของนางและให้ชื่อว่า “พระธาตุนางเพ็ญ” อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุดรธานี 37 กิโลเมตร
ตำบล: เพ็ญ อำเภอ: เพ็ญ จังหวัด: อุดรธานี 41000